มะระเป็นพืชเถา มีเถาช่วยพยุงเลื้อยโดยใช้เถายึดลำต้นให้ติดค้าง สามารถปลูกได้ทุกฤดูกาล และปลูกขึ้นได้ดีกับดินแทบทุกประเภท ในดินควรมีความชื้นสูงสม่ำเสมอ และควรได้รับแสงแดดเต็มที่
การเตรียมดินต้องทำให้ดินร่วนซุยที่สุดการเตรียมดินก็ต้องไถและพรวนดินให้ ลึกประมาณ 10-12 นิ้ว เก็บหญ้าออกให้หมด แล้วตากทิ้งไว้สัก 7-10 วัน ในขณะพรวนดินควรใส่ปุ๋ยมูลสัตว์ วัว ควาย ภายในชุมชนนั้นเองหน แล้วยกเป็นร่องเล็กๆ ยาวไปตามพื้นที่ ให้ระยะระหว่างร่องห่างกันพอเป็นทางเดิน เมื่อปลูกแล้วให้หลุมห่างกันประมาณ 50 เซนติเมตร ระยะแถวห่างกัน ประมาณ 1 เมตร


การเพาะกล้า โดยวิธีเพาะกล้างอก นำเมล็ดมาแช่น้ำ ประมาณ 1 คืน แล้วนำมาห่อกับผ้าชื้นประมาณ 2 วัน เมื่อเปิดดูจะเห็นรากโผล่ แล้วก็เลือกเมล็ดที่รากงอกนั้น แล้วนำไปปลูกในหลุม หลุมละ 2-3 เม็ด ขุดหลุมให้ลึกประมาณ 1 ศอก ใส่ปุ๋ยคอกกรองก้นหลุม หลุมละประมาณ 1 กระป๋องนม เอาดินใส่ลงไปในหลุมจนหลุมตื้นแล้วจึงนำมะระไปลงปลูก ควรปลูกในตอนเย็น ปลูกเสร็จใช้ฟางคลุมสัก 2-3 วัน รดน้ำให้ชุ่ม การรดน้ำต้องทำอย่างสม่ำเสมอ เพราะมะระยิ่งโตยิ่งต้องการน้ำมาก และต้องคอยถอนหญ้าออกด้วย
มะระเป็นพืชเถาวัลย์ที่ต้องเลื้อยขึ้นค้าง ดังนั้น จำเป็นจะต้องทำค้างให้ขึ้น แต่เดิม การทำค้างจะใช้ไม้ แต่เดี๋ยวนี้ไม้หายาก จึงต้องเอาไม้ไผ่มาผ่าให้ได้ขนาดประมาณ 2-3 เซนติเมตร ยาวประมาณ 2 เมตร ใช้ได้ประมาณ 3 ปี เนื้อที่ 1 ไร่ จะใช้ไม้ทำค้างประมาณ 1 หมื่นอัน


การปลูกมะระจะต้องใช้ความขยันเป็น พิเศษ เพราะผลมะระเป็นที่ต้องการของแมลงศัตรูพืชมาก โดยเฉพาะแมลงวันทอง โดยที่สวนของคุณแม่จะมีการห่อผลมะระด้วยกระดาษหนังสือพิมพ์โดยเริ่มห่อเมื่อ มะระออกดอกและติดลูกจนผลโตขนาดนิ้วก้อยแล้ว ใช้กระดาษทำเป็นถุงขนาดกว้าง ประมาณ 15 เซนติเมตร ยาว 20 เซนติเมตร ปากถุงให้แขวนอยู่บนก้านของผล การห่อผลไว้เช่นนี้ช่วยให้ผลมะระไม่ถูกรบกวนจากแมลงมากนัก และยังทำให้ผลมีสีเขียวอ่อนไม่น่ารับประทานอีกด้วย
ด้านผลผลิตและตลาดนั้น คุณแม่บอกว่า ไม่มีปัญหา เพราะสามารถเก็บผลผลิตส่งขายได้ทุกวัน แต่จะเก็บ 2 วันครั้ง และนำผลผลิตไปขายให้แก่พ่อค้า แม่ค้าในชุมชนโดยบรรจุถุง ถุงละ 10 กิโลกรัม เฉลี่ยแล้วได้วันละ 40 ถุง ด้านราคาก็แล้วแต่ราคาในท้องตลาด ซึ่งราคาขณะนี้กิโลกรัมละ 20-22 บาท คิดแล้วก็ถุงละ 200-220 บาท ถือได้ว่าการปลูกมะระเป็นพืชที่ทำรายได้ให้ไม่น้อยทีเดียวค่ะ จึงนับว่าเป็นเรื่องที่น่าสนใจอยู่ไม่น้อยสำหรับเกษตรกรที่มีที่ดินน้อยทั้ง หลาย
*ในการปลูกมะระ ฤดูหนึ่งจะใช้เวลาทั้งหมดประมาณ 3 เดือน และเริ่มเก็บผลผลิตหลังปลูก ประมาณ 45-50 วัน เมื่อเก็บจนหมดฤดูจะเก็บได้ประมาณ 15-20 ครั้ง เกษตรกรในนิยมปลูกมะระและพืชผักตามช่วงฤดูกาลเพราะง่ายกับการดูแลรักษานั้น เอง

  

วิธีปลูกมะระ

มะระเป็นพืชเถา มีเถาช่วยพยุงเลื้อยโดยใช้เถายึดลำต้นให้ติดค้าง สามารถปลูกได้ทุกฤดูกาล และปลูกขึ้นได้ดีกับดินแทบทุกประเภท ในดินควรมีความชื้นสูงสม่ำเสมอ และควรได้รับแสงแดดเต็มที่
การเตรียมดินต้องทำให้ดินร่วนซุยที่สุดการเตรียมดินก็ต้องไถและพรวนดินให้ ลึกประมาณ 10-12 นิ้ว เก็บหญ้าออกให้หมด แล้วตากทิ้งไว้สัก 7-10 วัน ในขณะพรวนดินควรใส่ปุ๋ยมูลสัตว์ วัว ควาย ภายในชุมชนนั้นเองหน แล้วยกเป็นร่องเล็กๆ ยาวไปตามพื้นที่ ให้ระยะระหว่างร่องห่างกันพอเป็นทางเดิน เมื่อปลูกแล้วให้หลุมห่างกันประมาณ 50 เซนติเมตร ระยะแถวห่างกัน ประมาณ 1 เมตร


การเพาะกล้า โดยวิธีเพาะกล้างอก นำเมล็ดมาแช่น้ำ ประมาณ 1 คืน แล้วนำมาห่อกับผ้าชื้นประมาณ 2 วัน เมื่อเปิดดูจะเห็นรากโผล่ แล้วก็เลือกเมล็ดที่รากงอกนั้น แล้วนำไปปลูกในหลุม หลุมละ 2-3 เม็ด ขุดหลุมให้ลึกประมาณ 1 ศอก ใส่ปุ๋ยคอกกรองก้นหลุม หลุมละประมาณ 1 กระป๋องนม เอาดินใส่ลงไปในหลุมจนหลุมตื้นแล้วจึงนำมะระไปลงปลูก ควรปลูกในตอนเย็น ปลูกเสร็จใช้ฟางคลุมสัก 2-3 วัน รดน้ำให้ชุ่ม การรดน้ำต้องทำอย่างสม่ำเสมอ เพราะมะระยิ่งโตยิ่งต้องการน้ำมาก และต้องคอยถอนหญ้าออกด้วย
มะระเป็นพืชเถาวัลย์ที่ต้องเลื้อยขึ้นค้าง ดังนั้น จำเป็นจะต้องทำค้างให้ขึ้น แต่เดิม การทำค้างจะใช้ไม้ แต่เดี๋ยวนี้ไม้หายาก จึงต้องเอาไม้ไผ่มาผ่าให้ได้ขนาดประมาณ 2-3 เซนติเมตร ยาวประมาณ 2 เมตร ใช้ได้ประมาณ 3 ปี เนื้อที่ 1 ไร่ จะใช้ไม้ทำค้างประมาณ 1 หมื่นอัน


การปลูกมะระจะต้องใช้ความขยันเป็น พิเศษ เพราะผลมะระเป็นที่ต้องการของแมลงศัตรูพืชมาก โดยเฉพาะแมลงวันทอง โดยที่สวนของคุณแม่จะมีการห่อผลมะระด้วยกระดาษหนังสือพิมพ์โดยเริ่มห่อเมื่อ มะระออกดอกและติดลูกจนผลโตขนาดนิ้วก้อยแล้ว ใช้กระดาษทำเป็นถุงขนาดกว้าง ประมาณ 15 เซนติเมตร ยาว 20 เซนติเมตร ปากถุงให้แขวนอยู่บนก้านของผล การห่อผลไว้เช่นนี้ช่วยให้ผลมะระไม่ถูกรบกวนจากแมลงมากนัก และยังทำให้ผลมีสีเขียวอ่อนไม่น่ารับประทานอีกด้วย
ด้านผลผลิตและตลาดนั้น คุณแม่บอกว่า ไม่มีปัญหา เพราะสามารถเก็บผลผลิตส่งขายได้ทุกวัน แต่จะเก็บ 2 วันครั้ง และนำผลผลิตไปขายให้แก่พ่อค้า แม่ค้าในชุมชนโดยบรรจุถุง ถุงละ 10 กิโลกรัม เฉลี่ยแล้วได้วันละ 40 ถุง ด้านราคาก็แล้วแต่ราคาในท้องตลาด ซึ่งราคาขณะนี้กิโลกรัมละ 20-22 บาท คิดแล้วก็ถุงละ 200-220 บาท ถือได้ว่าการปลูกมะระเป็นพืชที่ทำรายได้ให้ไม่น้อยทีเดียวค่ะ จึงนับว่าเป็นเรื่องที่น่าสนใจอยู่ไม่น้อยสำหรับเกษตรกรที่มีที่ดินน้อยทั้ง หลาย
*ในการปลูกมะระ ฤดูหนึ่งจะใช้เวลาทั้งหมดประมาณ 3 เดือน และเริ่มเก็บผลผลิตหลังปลูก ประมาณ 45-50 วัน เมื่อเก็บจนหมดฤดูจะเก็บได้ประมาณ 15-20 ครั้ง เกษตรกรในนิยมปลูกมะระและพืชผักตามช่วงฤดูกาลเพราะง่ายกับการดูแลรักษานั้น เอง

  

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น