การเลี้ยงปลานิล
กำจัด วัช
พืช และ พันธุ์ ไม้ น้ำ ต่าง ๆ เช่น กก หญ้า ผัก ตบ ชวา ให้ หมด โดย นำ มา กอง สุม ไว้ แห้ง แล้ว นำ มา ใช้ เป็น ปุ๋ย หมัก ใน ขณะ ที่ ปล่อย ปลา ลง เลี้ยง ถ้า ใน บ่อ เก่า มี เลน มาก จำ เป็น ต้อง สาด เลน ขึ้น โดย นำ ไป เสริม คัน ดิน ที่ ชำรุด หรือ ใช้ เป็น ปุ๋ย แก่ พืช ผัก ผล ไม้ บริเวณ ใกล้ เคียง พร้อม ทั้ง ตก แต่ง เชิง ลาด และ คัน ดิน ให้ แน่น ด้วย
กำจัดศัตรู ของ ปลา นิล ได้ แก่ ปลา จำพวก กิน เนื้อ เช่น ปลา ช่อน ปลา ชะโด ปลา หมอ ปลา ดุก นอก จาก นี้ ก็ มี สัตว์ จำพวก กบ เขียด งู เป็น ต้น ดัง นั้น ก่อน ที่ จะ ปล่อย ปลา นิล ลง เลี้ยง จึง จำ เป็น ต้อง
กำจัด ศัตรู
ดัง กล่าว เสีย ก่อน โดย วิธี ระบาย น้ำ ออก ให้ เหลือ น้อย ที่ สุด การ กำจัด ศัตรู ของ ปลา อาจ ใช้ โล่ติ๊นสด หรือ แห้ง ประมาณ ๑ กิโลกรัม ปริมาณ ของ น้ำ ใน บ่อ ๑๐๐ ลูกบาศก์ เมตร คือ ทุบ หรือ บด โล่ติ๊นให้ ละเอียด นำ ลง แช่ น้ำ ประมาณ ๑-๒ ปี๊บ ขยำ โล่ติ๊นเพื่อ ให้ น้ำ สี ขาว ออก มา หลาย ๆ ครั้ง จน หมด นำ ไป สาด ให้ ทั่ว บ่อ ศัตรู พวก ปลา จะ ลอย หัว ขึ้น มา ภาย หลัง โล่ติ๊นประมาณ ๓๐ นาที ใช้ สวิง จับ ขึ้น มา ใช้ บริโภค ได้ ที่ เหลือ ตาย พื้น บ่อ จะ ลอย ใน วัน รุ่ง ขึ้น ส่วน ศัตรู จำพวก กบ เขียด งู จะ หนี ออก จาก บ่อ ไป และ ก่อน ปล่อย ปลา ลง เลี้ยง ควร จะ ทิ้ง ระยะ ไว้ ประมาณ ๗ วัน เพื่อ ให้ ฤทธิ์ ของ โล่ ติ๊ก สลาย ตัว ไป หมด เสีย ก่อน
การ ใส่
ปุ๋ย โดย ปกติ แล้ว อุปนิสัย ใน การ กิน อาหาร ของ ปลา นิล จะ กิน อาหาร จำพวก แพลงก์ตอน พืช และ สัตว์ เศษ วัสดุ เน่า เปื่อย ตาม พื้น บ่อ แหน สาหร่าย ฯลฯ ดัง นั้น ใน บ่อ เลี้ยง ปลา ควร ให้ อาหาร ธรรม ชาติ ดัง กล่าว เกิด ขึ้น อยู่ เสมอ จึง จำ เป็น ต้อง ใส่ ปุ๋ย ลง ไป เพื่อ ละ ลาย เป็น ธาตุ อาหาร ซึ่ง พืช น้ำ ขนาด เล็ก จำ เป็น ใช้ ใน การ ปรุง อาหาร และ เจริญ เติบ โต โดย กระบวน การ สังเคราะห์ แสง ซึ่ง เป็น โซ่ อาหาร อัน ดับ ต่อ ไป คือ แพลงก์ตอน สัตว์ ได้ แก่ ไร น้ำ และ ตัว อ่อน ของ แมลง ปุ๋ย ที่ ใช้ ได้ แก่ มูล วัว ควาย หมู เป็ด ไก่ นอก จาก ปุ๋ย ที่ ได้ จาก มูล สัตว์ แล้ว ก็ อาจ ใช้ ปุ๋ย หมัก จำพวก หญ้า และ ฟาง ข้าว ปุ๋ย พืช สด ต่าง ๆ ได้ เช่น เดียว กัน
การอัตราใส่ปุ๋ยคอกในระยะแรก ควรใส่ประมาณ ๒๕๐-๓๐๐ กก./ไร่/เดือน ส่วนในระยะหลังควรลดลงเพียงครึ่งหนึ่ง หรือสังเกตจากสีของน้ำในบ่อ ถ้ายังมีสีเขียวอ่อนแสดงว่ามีอาหาร ธรรมชาติเพียงพอ ถ้าน้ำใสปราศจากอาหาร ธรรมชาติก็เพิ่มอัตราส่วนให้มากขึ้น และในกรณีที่หาปุ๋ยคอกไม่ได้ก็อาจใช้ปุ๋ยวิทยาศาสตร์ สูตร ๑๕:๑๕:๑๕ ใส่ประมาณ ๕ กก./ไร่/เดือน ก็ได้ วิธีใส่ปุ๋ย ถ้าเป็นปุ๋ยคอกควรตากบ่อให้แห้งเสียก่อน เพราะปุ๋ยสดจะทำให้น้ำมีแก๊สจำพวกแอมโมเนียละลายอยู่ในน้ำมาก เป็นอันตรายต่อปลา การใส่ปุ๋ยคอกใช้วิธีหว่านลงไปในบ่อให้ละลายน้ำทั่ว ๆ บ่อ ส่วนปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยสดนั้น ควรกองสุมไว้ตามมุมบ่อ ๒-๓ แห่ง โดยมีไม้ปักล้อมเป็นคอกรอบกองปุ๋ยเพื่อป้องกันมิให้ส่วนที่ยังไม่สลายตัวกระจัดกระจายส่วน
การให้ อาหาร
การ ใส่ ปุ๋ย เป็น การ ให้ อาหาร แก่ ปลา นิล ที่ สำคัญ มาก วิธี หนึ่ง เพราะ จะ ได้ อาหาร ธรรม ชาติ ที่ มี โปรตีน สูง และ ราคา ถูก แต่ เพื่อ เป็น การ เร่ง ให้ ปลา ที่ เลี้ยง เจริญ เติบ โต เร็ว ขึ้น หรือ ถูก ต้อง ตาม หลัก วิชา การ จึง ควร ให้ อาหาร จำพวก คาร์โบไฮเดรทเป็น อาหาร สม บท ด้วย เช่น รำ ปลาย ข้าว กาก มะพร้าว มัน สำปะหลัง หั่น ต้ม ให้ สุก และ เศษ เหลือ ของ อาหาร ที่ มี โปรตีน สูง เช่น กาก ถั่ว เหลือง จาก โรง ทำ เต้าหู้ กาก ถั่ว ลิสง อาหาร ผสม ซึ่ง มี ปลา ป่น รำ ข้าว ปลาย ข้าว มี จำนวน โปรตีน ประมาณ ๒๐% เศษ อาหาร ที่ เหลือ จาก โรง ครัว หรือภัตตา คาร อาหาร ประเภท พืช ผัก เช่น แหน เป็ด สาหร่าย ผัก ตบ ชวา สับ ให้ ละเอียด เป็น ต้น อาหาร สม ทบ เหล่า นี้ ควร เลือก ชนิด ที่ มี ราคา ถูก และ หา ได้ สะดวก ส่วน ปริมาณ ที่ ให้ ก็ ไม่ ควร เกิน ๔% ของ น้ำ หนัก ปลา ที่ เลี้ยง หรือ จะ ใช้ วิธี สังเกต จาก ปลา ที่ ขึ้น มา กิน อาหาร จาก จุด ที่ ให้ เป็น ประจำ คือ ถ้า ยัง มี ปลา นิล ออ กัน อยู่ มาก เพื่อ รอ กิน อาหาร ก็ เพิ่ม จำนวน อาหาร มาก ขึ้น ตาม ลำ ดับ ทุก ๑-๒ สัปดาห์ ใน การ ให้ อาหาร สม ทบ มี ข้อ พึง ควร ระวัง คือ ถ้า ปลา กิน ไม่ หมด อาหาร จม พื้น บ่อ หรือ ละ ลาย น้ำ มาก ก็ จะ ทำ ให้ เกิด ความ เสีย หาย ขึ้น หลาย ประการ เช่น เสีย ค่า ใช้ จ่าย ไป โดย เปล่า ประ โยชน์ ทำ ให้ น้ำ เน่า เสีย เป็น อันตราย ต่อ ปลา ที่ เลี้ยง และ หรือ ต้อง เพิ่ม ค่า ใช้ จ่าย ใน การ สูบ ถ่าย เปลี่ยน น้ำ บ่อย ๆ เป็น ต้น
กำจัด
กำจัดศัตรู
กำจัด
การ
การอัตราใส่ปุ๋ยคอกในระยะแรก ควรใส่ประมาณ ๒๕๐-๓๐๐ กก./ไร่/เดือน ส่วนในระยะหลังควรลดลงเพียงครึ่งหนึ่ง หรือสังเกตจากสีของน้ำในบ่อ ถ้ายังมีสีเขียวอ่อนแสดงว่ามีอาหาร ธรรมชาติเพียงพอ ถ้าน้ำใสปราศจากอาหาร ธรรมชาติก็เพิ่มอัตราส่วนให้มากขึ้น และในกรณีที่หาปุ๋ยคอกไม่ได้ก็อาจใช้ปุ๋ยวิทยาศาสตร์ สูตร ๑๕:๑๕:๑๕ ใส่ประมาณ ๕ กก./ไร่/เดือน ก็ได้ วิธีใส่ปุ๋ย ถ้าเป็นปุ๋ยคอกควรตากบ่อให้แห้งเสียก่อน เพราะปุ๋ยสดจะทำให้น้ำมีแก๊สจำพวกแอมโมเนียละลายอยู่ในน้ำมาก เป็นอันตรายต่อปลา การใส่ปุ๋ยคอกใช้วิธีหว่านลงไปในบ่อให้ละลายน้ำทั่ว ๆ บ่อ ส่วนปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยสดนั้น ควรกองสุมไว้ตามมุมบ่อ ๒-๓ แห่ง โดยมีไม้ปักล้อมเป็นคอกรอบกองปุ๋ยเพื่อป้องกันมิให้ส่วนที่ยังไม่สลายตัวกระจัดกระจายส่วน
การให้
การ
การเลี้ยงปลานิล
By Unknown
การเลี้ยงปลาดุกในบ่อดิน
การเลือกสถานที่เลี้ยงปลาดุก
การเลือกสถานที่เลี้ยงปลาดุก
ปัจจัยที่ควรนำมาพิจารณาในการเลือกสถานที่สร้างบ่อเลี้ยงปลา มีดังนี้
1. สถานที่ไม่เป็นที่ลุ่มหรือที่ดอนเกินไป สามารถจัดระบบน้ำระบายน้ำเข้า-ออกได้ดี
2. สภาพดินควรเป็นดินเหนียวสามารถทำเป็นคันบ่อเก็บกักน้ำได้ดี
3. สภาพน้ำต้องเป็นน้ำสะอาดปราศจากสารพิษของโลหะหนักหรือยาฆ่าแมลง หรือของเสียจากโรงงานอุตสาหกรรม
4. ทางคมนาคมสะดวก
การเตรียมบ่อเลี้ยงปลา มีวิธีการเตรียมบ่อดังนี้
1. บ่อใหม่ - ใส่ปูนขาวเพื่อปรับสภาพดินในอัตรา 60-100 กิโลกรัม/ไร่ โดยให้ทั่วพื้นบ่อ- ใส่ปุ๋ยคอกอัตรา 200 กิโลกรัม/ไร่ โดยโรยให้ทั่วบ่อ- เติมน้ำให้ได้ระดับ 40-50 เซนติเมตร ทิ้งไว้ 3-5 วัน จนน้ำเริ่มเป็นสีเขียวระวังอย่าให้เกิดแมลง หรือศัตรูปลา
2. บ่อเก่า - ทำความสะอาดบ่อลอกเลนให้มากที่ส- ใส่ปูนขาวอัตรา 60-100 กิโลกรัม/ไร่- ตากบ่อให้แห้ง ประมาณ 7-15 วัน- นำปุ๋ยคอกใส่ถุงแขวนไว้ตามมุมบ่อประมาณ 60-100 กิโลกรัม/ไร่ เพื่อเพิ่มอาหารธรรมชาติ- เติมน้ำ 40-50 เซนติเมตร ทิ้งไว้ 3-5 วัน จนน้ำเป็นสีเขียวก่อนปล่อยปลาควรตรวจวัดความเป็นกรด-ด่างของน้ำอีกครั้ง ถ้าไม่ถึง 7.5-8.5 ควรน้ำปูนขาวละลายน้ำสาดให้ทั่วบ่อเพื่อปรับความเป็นกรด-ด่าง ให้ได้ 7.5-8.5
การเตรียมพันธ์ปลา การเลือกซื้อลูกปลาควรพิจารณาปัจจัยต่าง ๆ ดังนี้
1. แหล่งพันธุ์หรือบ่อเพาะฟัก ควรดูจาก- ความน่าเชื่อถือและไว้วางใจได้ในเรื่องคุณภาพ- มีการคัดเลือกพ่อแม่พันธุ์ เพื่อให้ได้พันธุ์ที่มีคุณภาพ- มีความชำนาญในการขนส่งลูกปลา
2. ลักษณะภายนอกของลูกปลาต้องปกติสมบูรณ์ ซึ่งสังเกตจาก- การว่ายน้ำต้องปราดเปรียว ไม่ว่ายควงสว่าน หรือลอยตัวตั้งฉากพื้นบ่อ- ลำตัวสมบูรณ์ หนวด หาง ครีบ ไม่กร่อน ไม่มีบาดแผล ไม่มีจุดหรือปุยขาวเกาะ- ขนาดลูกปลาต้องเสมอกันการปล่อยลูกปลาบ่อเลี้ยง เมื่อขนส่งลูกปลามาถึงบ่อที่เตรียมไว้ควรแช่ถุงปลาไว้ในบ่อประมาณ 10-15 นาที เพื่อปรับอุณหภูมิระหว่างน้ำในถุงกับน้ำในบ่อเพื่อป้องกันลูกปลาช็อค
ก่อนปล่อยลูกปลาควรมีการทำร่มเงาไว้ในบ่อให้ลูกปลาได้ใช้เป็นที่อยู่อาศัยอัตราการปล่อย เกษตรกรรายใหม่ ควรปล่อยลูกปลาขนาดปลานิ้ว จะทำให้อัตราการรอดสูง อัตราการปล่อย ปลาขนาด 2-3 เซนติเมตร ปล่อย 80,000-100,000 ตัว/ไร่ ก่อนปล่อยควรสุ่มนับจำนวนเพื่อตรวจสอบให้รู้จำนวนจริงอาหารและการให้อาหาร
ต้นทุนการผลิตปลาประมาณ 80% เป็นค่าอาหาร เพราะฉะนั้นการเลี้ยงใช้อาหารเป็นสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญเป็นพิเศษการเลือกซื้ออาหาร ลักษณะของอาหาร - สีสันดี- กลิ่นดี ไม่เหม็นหืน- ขนาดเม็ดสม่ำเสมอ ไม่เป็นฝุ่น- การลอยตัวของอาหารในน้ำอยู่ได้นาน- อาหารไม่เปียกชื้น ไม่จับตัวเป็นก้อน ไม่ขึ้นราประเภทของอาหารสำเร็จรูป - อาหารสำหรับลูกปลาวัยอ่อน ใช้สำหรับลูกปลาขนาด 1 – 4 เซนติเมตร- อาหารปลาดุกเล็กพิเศษ ใช้สำหรับลูกปลาขนาด 3 เซนติเมตร – 1 เดือน- อาหารปลาดุกเล็ก ใช้สำหรับปลาอายุ 1-3 เดือน- อาหารปลาดุกใหญ่ ใช้สำหรับปลาอายุ 3 เดือน – ส่งตลาดวิธีการให้อาหารปลา เมื่อปล่อยลูกปลาวันแรกไม่ต้องให้อาหาร จะเริ่มให้อาหารวันถัดไป อาหารที่ให้เป็นอาหารลูกปลาวัยอ่อน พรมน้ำ แล้วนวดจนเหนียวปั้นเป็นก้อนแล้วเสียบกับไม้ปักไว้รอบบ่อปริมาณที่ให้ต้องให้ปลากินหมด ภายในเวลา 30-60 นาที โดยให้อาหารประมาณ 1 สัปดาห์ หลังจากนั้นอาจจะให้อาหารปลาดุกเล็กพิเศษแช่น้ำให้นิ้มแล้วปั่นรวมกับอาหารลูกปลาวัยอ่อนให้ปลากิน เมื่อปลาโตพอกินอาหารเม็ดได้ก็เริ่มให้อาหารปลาดุกเล็กพิเศษอย่างเดียวหว่านให้กินกระจายทั่วบ่อ ปริมาณที่ให้กะหมดภายใน 30 นาที ให้กินจนลูกปลาอายุ 1 เดือน
ให้อาหารปลาดุกเล็กโดยให้ในแต่ละมื้อควรให้ปลากินหมดภายใน 30 นาที ช่วงนี้ควรเริ่มฝึกให้ปลากินอาหารเป็นที่ โดยให้อาหารจุดเดิมประจำปละเคาะหลักไม้ทุกครั้งเมื่อมีการให้อาหาร การให้อาหารปลาจะให้ 2 มื้อ ต่อวันให้อาหารปลาดุกเล็กจนลูกปลามีอายุ 2 เดือน ให้อาหารปลาดุกใหญ่ ปริมาณที่ให้แต่ละมื้อจะต้องให้ปลากินหมดภายใน 30 นาที่ โดยให้อาหาร 2 มื้อ ในกรณีปลาป่วย หรือกินอาหารลดลงให้ลดปริมาณอาหารลงครึ่งหนึ่งของปริมาณที่ให้ปกติ ในกรณีเกิดจากสภาพน้ำ หรือการเปลี่ยนแปลงของอากาศให้ปรับสภาพน้ำโดยทำการเปลี่ยนถ่ายน้ำ หรือใส่เกลือ หรือปูนขาว ถ้าพบว่าปลาที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรียให้ผสมปฏิชีวนะ 3-5 กรัมต่ออาหาร 1 กิโลกรัม ให้กินติดต่อกัน 7 วัน เช่น อาออกชีเตตร้าซัยคลิน ถ้าเกิดจากพยาธิภายนอกให้รักษาตามลักษณะของพยาธินั้น ๆ เช่นถ้าพบปลิงใส เห็บระฆัง เกาะจำนวนมาก หรือเริ่มทยอยตายให้ใช้ฟอร์มาลินเข้มข้น 30-40 ซีซี/น้ำ 1,000 ลิตร ฉีดพ่นหรือสาดลงในบ่อแช่ทิ้งตลอด
การเลี้ยงปลาดุกในบ่อดิน
By Unknown
เลี้ยงกบในบ่อปูนซีเมนต์
วัสดุ/อุปกรณ์
แม่พันธุ์-พ่อพันธุ์กบ ไม้ไผ่ทำแพหรือแผ่นโฟมทางมะพร้าว บ่อซีเมนต์ อาหารเม็ดสำหรับเลี้ยงลูกกบและกบโต
แหล่งจำหน่ายพันธุ์กบ
ฟาร์มเลี้ยงกบทั่วไป
วิธีดำเนินการ
1. การเลี้ยงกบควรเลือกพื้นที่เป็นที่สูงหรือที่ดอน
มีลักษณะราบเสมอ ใกล้แหล่งน้ำ เพื่อสะดวกต่อการถ่ายเทน้ำ
แต่ควรให้ห่างจากถนนเพื่อป้องกันเสียงรบกวน
2. สร้างบ่อซีเมนต์ขนาดกว้าง 1 เมตร ยาว 1.5 เมตร สูง 1 เมตร เพื่อใช้เพาะพันธุ์กบ จำนวน 1 บ่อ และสร้างบ่อขนาดกว้าง 3 เมตร ยาว 4 เมตร จำนวน 3 บ่อ โดยก่อแผ่นซีเมนต์และฉาบด้วยปูนซีเมนต์ ปูนที่ฉาบควรหนาเป็นพิเศษ ตรงส่วนล่างที่เก็บขังน้ำสูงจากพื้น 1 ฟุต พื้นล่างเทปูนหนาเพื่อรองรับน้ำ และมีท่อระบายน้ำอยู่ตรงส่วนที่ลาดที่สุด
3. พันธุ์กบที่จะเพาะเลี้ยง ควรเลือกกบนา เพราะเจริญเติบโตเร็ว และเป็นที่นิยมของผู้บริโภค กบนาตัวผู้มีขนาดเล็กกว่าตัวเมีย เมื่อจับพลิกหงายขึ้นจะเห็นกล่องเสียงอยู่ใต้คางแถวมุมปากส่วนตัวเมียมองไม่ เห็นกล่องเสียง
การเพาะพันธุ์กบ 2. สร้างบ่อซีเมนต์ขนาดกว้าง 1 เมตร ยาว 1.5 เมตร สูง 1 เมตร เพื่อใช้เพาะพันธุ์กบ จำนวน 1 บ่อ และสร้างบ่อขนาดกว้าง 3 เมตร ยาว 4 เมตร จำนวน 3 บ่อ โดยก่อแผ่นซีเมนต์และฉาบด้วยปูนซีเมนต์ ปูนที่ฉาบควรหนาเป็นพิเศษ ตรงส่วนล่างที่เก็บขังน้ำสูงจากพื้น 1 ฟุต พื้นล่างเทปูนหนาเพื่อรองรับน้ำ และมีท่อระบายน้ำอยู่ตรงส่วนที่ลาดที่สุด
3. พันธุ์กบที่จะเพาะเลี้ยง ควรเลือกกบนา เพราะเจริญเติบโตเร็ว และเป็นที่นิยมของผู้บริโภค กบนาตัวผู้มีขนาดเล็กกว่าตัวเมีย เมื่อจับพลิกหงายขึ้นจะเห็นกล่องเสียงอยู่ใต้คางแถวมุมปากส่วนตัวเมียมองไม่ เห็นกล่องเสียง
ล้างบ่อซีเมนต์ให้สะอาด ใส่น้ำลงไปให้ได้ความลึกประมาณครึ่งฟุต แล้วหาวัชพืชน้ำมาใส่ไว้เพื่อให้ไข่กบเกาะ จากนั้นนำพ่อพันธุ์-แม่พันธุ์กบ 1คู่มาใส่ไว้รวมกันประมาณ 2-3 คืน กบจะผสมพันธุ์และวางไข่ในช่วงเวลา 04.00-06.00 น. เมื่อเห็นว่ากบออกไข่แล้วให้นำพ่อพันธุ์-แม่พันธุ์ออกจากบ่อ เพื่อป้องกันไม่ให้แพไข่แตก
การอนุบาลลูกกบวัยอ่อน
เมื่อไข่กบฟักออกเป็นตัวอ่อนแล้ว ช่วง 2 วันแรกไม่ต้องให้อาหาร เพราะลูกอ๊อดยังใช้ไข่แดงที่ติดมาเลี้ยงตัวเอง หลังจากนั้นจึงเริ่มให้อาหารเม็ดสำหรับลูกกบวันละ1 ครั้ง ครั้งละประมาณ 1 กำมือ หรืออาจให้ไข่แดงบดเป็นอาหารแทนก็ได้ ซึ่งเฉลี่ยแล้วใช้วันละ 2-3 ฟองต่อลูกอ๊อด 1 ครอกเมื่อลูกอ๊อดมีอายุ 20-30 วัน จึงเป็นลูกกบเต็มวัย ในช่วงนี้ต้องนำไม้ไผ่มาทำเป็นแพหรือแผ่นโฟมลอยน้ำเพื่อให้ลูกกบเต็มวัยขึ้น ไปอาศัยอยู่ เพราะลูกอ๊อดจะโตเต็มวัยไม่พร้อมกัน อาจมีการรังแกกันจนเกิดแผลทำให้ลูกกบตายได้ ดังนั้น จึงต้องลงมือคัดลูกกบขนาดตัวยาว 2 เซนติเมตร ไปเลี้ยงในบ่อที่เตรียมไว้ บ่อละ 1,000 ตัว
การดูแลและเลี้ยงกบเต็มวัยจนเป็นกบโต
เมื่อคัดลูกกบนำไปเลี้ยงในบ่อแล้ว ใส่วัชพืชน้ำและวัสดุลอยน้ำลงไป เช่น แพไม้ไผ่หรือแผ่นโฟม เพื่อให้กบขึ้นไปอาศัยอยู่ และนำทางมะพร้าวมาคลุมบ่อเพื่อบังแดดด้วยในช่วงที่คัดลูกกบลงบ่อซีเมนต์ใหม่ ๆ นี้ ให้ใช้อาหารเม็ดสำหรับเลี้ยงลูกกบไประยะหนึ่งก่อนเมื่อกบโตขึ้นจึงค่อยให้ อาหารเม็ดสำหรับเลี้ยงกบโตวันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น ในอัตรา 3% ของน้ำหนักตัวกบ คือ ถ้ากบน้ำหนัก 100 กิโลกรัม ก็ให้อาหารวันละ 3 กิโลกรัมในขั้นตอนนี้ใช้เวลาเลี้ยงประมาณ 3 เดือน ก็สามารถจับกบจำหน่ายได้
ข้อแนะนำ
1.
การเลี้ยงกบต้องระวังเรื่องความสะอาดขณะสูบบุหรี่ใกล้บริเวณบ่อ
ระวังอย่าให้ขี้บุหรี่ตกลงไปในบ่อเด็ดขาด เพราะลูกกบจะตายยกบ่อ
2. การเลี้ยงกบ ต้องคัดลูกกบขนาดเท่ากันไปเลี้ยงในบ่อเดียวกันห้ามเลี้ยงลูกกบคนละขนาดเด็ด ขาด เพราะลูกกบจะกินกันเอง
3. การเลี้ยงกบควรกะระยะเวลา 4 เดือน ในการจับจำหน่าย อย่าให้ตรงกับช่วงฤดูฝน เพราะกบราคาถูก
4. อาหารกบ นอกจากอาหารเม็ดแล้ว สามารถใช้เนื้อปลาสับหรือเนื้อหอยโข่งก็ได้
5. ก่อนที่จะปล่อยแม่พันธุ์กบลงผสมพันธุ์ ต้องสังเกตแม่พันธุ์กบว่าตัวเริ่มฝืด มีปุ่มหนาม แสดงว่าพร้อมจะผสมพันธุ์ หากปล่อยลงไปแล้ว 2-3 วัน ยังไม่เห็นไข่กบก็จับพ่อพันธุ์-แม่พันธุ์มาแยกเลี้ยงอีกระยะหนึ่ง แล้วค่อยนำมาผสมพันธุ์ใหม่
2. การเลี้ยงกบ ต้องคัดลูกกบขนาดเท่ากันไปเลี้ยงในบ่อเดียวกันห้ามเลี้ยงลูกกบคนละขนาดเด็ด ขาด เพราะลูกกบจะกินกันเอง
3. การเลี้ยงกบควรกะระยะเวลา 4 เดือน ในการจับจำหน่าย อย่าให้ตรงกับช่วงฤดูฝน เพราะกบราคาถูก
4. อาหารกบ นอกจากอาหารเม็ดแล้ว สามารถใช้เนื้อปลาสับหรือเนื้อหอยโข่งก็ได้
5. ก่อนที่จะปล่อยแม่พันธุ์กบลงผสมพันธุ์ ต้องสังเกตแม่พันธุ์กบว่าตัวเริ่มฝืด มีปุ่มหนาม แสดงว่าพร้อมจะผสมพันธุ์ หากปล่อยลงไปแล้ว 2-3 วัน ยังไม่เห็นไข่กบก็จับพ่อพันธุ์-แม่พันธุ์มาแยกเลี้ยงอีกระยะหนึ่ง แล้วค่อยนำมาผสมพันธุ์ใหม่
เลี้ยงกบในบ่อปูนซีเมนต์
By Unknown
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)